บทที่ 12 12
12
เขาตะโกนถามญาดาเสียงดังราวกับฟ้าผ่า หญิงสาวที่ถูกถามสะดุ้ง สุดตัว น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม มองร่างของน้องชายที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของอีกฝ่ายกำลังร้องขอชีวิตและบอกให้เธอช่วยเหลือตลอดเวลา อีกทั้งปลายกระบอกปืนที่เล็งไปที่ศีรษะของภมรด้วยแล้ว ทำให้หญิงสาวตอบคำถามนั้นทันที
“ต้อมมีความสำคัญกับเปิ้ลมากที่สุด เพราะเขาคือน้องชายคนเดียวของเปิ้ลและเป็นญาติคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ ได้โปรดอย่าทำอะไรเขาเลยนะคะ ถ้าคำพูดของเปิ้ลเมื่อครู่ทำให้คุณโกรธ เปิ้ลกราบขอโทษค่ะ อย่าทำอะไรต้อมเลยนะคะ พรุ่งนี้เปิ้ลจะไปไถ่แหวนคืนมาให้เอง”
ญาดาก้มลงกราบคาลิเอโปอีกครั้ง น้อมรับความผิดจากคำพูดที่ไม่ได้คิดก่อนจะเอ่ยวาจาออกไป ญาดามั่นใจว่าภมรต้องเอาแหวนไปจำนำที่โรงรับจำนำที่ไหนสักแห่งแน่นอน เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เธอจะหาเงินมาไถ่คืนให้ไม่ว่ามันจะมากมายขนาดไหนก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้คาลิเอโปจะไม่สนใจเรื่องแหวน เพราะถึงอย่างไรเขาต้องได้คืนแน่นอน ตอนนี้เขาสนใจที่จะเล่นเกมกับสองพี่น้องคู่นี้มากกว่า
“แต่สำหรับฉัน น้องของเธอไม่มีค่าอะไรเลย เหมือนเศษขยะที่ตกอยู่ตามพื้นถนนที่ไม่มีใครสนใจแม้แต่คนที่ทิ้งลงไป แหวนของฉันเสียอีกที่มีค่า เธอลองเอาแหวนเพชรของฉันวางคู่กับเศษขยะที่หาค่าไม่ได้อย่างไอ้หัวขโมยคนนี้ เธอคิดดูสิว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะสนใจอะไรมากกว่ากัน และจะหยิบอะไร ขึ้นมาถ้าไม่ใช่แหวนเพชร แค่นี้เธอคงจะรู้แล้วนะว่าแหวนเพชรกับขยะสิ่งไหนมีค่ามากกว่ากัน”
“โอ๊ย” จบคำพูดของคาลิเอโป เสียงร้องของภมรดังลั่นห้องพักส่วนตัวสุดหรูทันที สาเหตุนั้นไม่ใช่อื่นใด ลูกกระสุนที่วิ่งออกมาจากปลายกระบอกปืนแบบเก็บเสียงของคาลิเอโปนั้นวิ่งเข้าไปฝังตัวอยู่บริเวณหน้าขา อีกเพียงสามสี่ เซนติเมตรเท่านั้นก็จะถึงอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชาย ญาดารีบถลาเข้ามาหาร่างของภมรที่ร้องโอดครวญแทบขาดใจทันที
“พี่เปิ้ล พี่...พี่เปิ้ลช่วยผมด้วย ผมไม่อยากตาย”
ภมรรีบพูดออกมาทันที เขาคิดผิดจริงๆ ที่ขโมยของชายเลือดเย็นคนนี้ หากเขารู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับอุปนิสัยส่วนตัวของคาลิเอโปมาก่อน เขาจะไม่มีวันทำอย่างนี้เด็ดขาด หลอกพี่สาวไปให้เสี่ยเหลิมยังจะดีเสียกว่า
“ไม่ต้องกลัว พี่จะช่วยต้อมเองนะ ไม่ต้องกลัว” หญิงสาวถอดเสื้อของน้องชายออก ก่อนจะนำมากดที่บาดแผลที่ถูกยิงโดยวางมือของน้องชายกดทับ ที่เสื้อไว้เพื่อไม่ให้เลือดไหลออกจากร่างกายมากกว่านี้
“เปิ้ลขอร้องนะคะ อย่าทำอะไรต้อมเลย เปิ้ลกับน้องชายไม่มีทางสู้คุณได้อยู่แล้ว เปิ้ลขอนะคะ ขอชีวิตของต้อมนะคะ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนกันนะคะ” คาลิเอโปทำสีหน้าฉงนกับคำพูดของญาดา แลกเปลี่ยนกัน แลกเปลี่ยนด้วยอะไรเขาไม่เข้าใจ
“แลกเปลี่ยนอะไรมิทราบ” ญาดาข่มความเสียใจที่ฝังแน่นในจิตใจเอาไว้จนสุดกำลัง ก่อนเจรจาขอแลกเปลี่ยนที่เขาสงสัยว่าคือสิ่งใด
“แลกกับความสาวของเปิ้ลที่ถูกคุณย่ำยีไงคะ ตอนนั้นคุณคาร์ลให้เงินเปิ้ลแต่เปิ้ลไม่รับ ถือว่าความสาวของเปิ้ลในครั้งนั้นแลกกับชีวิตของต้อมนะคะ”
สเตฟี่งงเป็นไก่ตาแตก ไม่เข้าใจว่าทั้งสองไปมีความสัมพันธ์กันตอนไหน ทำไมเขาเป็นคนสนิทที่ไปไหนมาไหนกับคาลิเอโปจึงไม่รู้เรื่อง ภมรเองก็ตะลึงงันกับคำพูดของพี่สาวเช่นกัน ถ้ารู้มาก่อนว่าพี่สาวของเขาไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ละก็ เขาหลอกให้ไปเป็นอีหนูของเสี่ยเหลิมตั้งนานแล้ว จะได้ไม่ต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้ ภมรช่างมีความคิดที่ร้ายกาจไม่สมกับที่ญาดาปกป้องเขาอยู่ขณะนี้เลย เลวในสันดานจริงๆ
คาลิเอโปอึ้งไปนาทีแรกก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าพูดประโยคนี้
ออกมา ‘ความสาวในครั้งนั้นแลกกับชีวิตของน้องชาย’ ความสาวของเธอคนนี้กับชีวิตของภมรต่างไม่มีค่าในสายตา ในความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อเธอกล้าพูดร้องขอเขาก็กล้าให้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่า...
“ได้ จะเอาอย่างที่เธอพูดก็ได้ไม่มีปัญหา” ญาดาถึงกับยิ้มออกเมื่อเขาพูดจบประโยค เช่นเดียวกับภมรที่ดีใจไม่ต่างกันเมื่อรู้ว่าตัวเองจะรอดจากความตาย คาลิเอโปกระตุกยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะพูดอีกประโยคหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าของสองพี่น้องตรงกันข้ามกับเมื่อสักครู่อย่างสิ้นเชิง
“แต่ว่า จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเดินออกไปจากห้องนี้ ความสาวของเธอมีค่าแค่หนึ่งชีวิต เลือกเอาเองก็แล้วกันว่าจะให้ใครเดินออกไปจากประตูห้องพักของฉันและใครจะตายอยู่ในห้องนี้”
เขาช่างร้ายและโหดเหี้ยมเหลือเกิน คำพูดของเขานั้นเหมือนกับยื่นดาบมาให้เธอกับภมรห้ำหั่นกันเอง ใครเป็นผู้ชนะจะได้รับอิสระเดินออกไปจากห้องนี้ได้อย่างปลอดภัย ส่วนอีกคนหนึ่งที่เหลือสุดแต่เวรแต่กรรมโดยมีคาลิเอโปเป็นผู้กำหนด
“พี่เปิ้ล ผมไม่อยากตาย ผมไม่อยากตาย ให้ผมออกไปจากที่นี่นะ”
ภมรร้องขอพี่สาวให้เขาเป็นฝ่ายได้เดินออกไปจากที่นี่ ญาดาย้อนนึกถึงคำพูดของมารดาที่พูดกับเธอไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต นางฝากฝังภมรให้เธอดูแลให้ดีที่สุด ในฐานะพี่สาวและผู้ปกครองเพียงคนเดียวในโลกที่เหลืออยู่ ซึ่งญาดาปฏิบัติ ตามคำสั่งของมารดามาตลอด ไม่ว่าภมรจะก่อเรื่องมากน้อยแค่ไหน หญิงสาวพร้อมที่จะช่วยเหลือน้องชายเสมอ เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เช่นกัน ญาดาจะปกป้องน้องชายที่ไม่เคยสำนึกผิดจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
